เรื่องย่อ The Conjuring 3: The Devil Made Me Do It (2021) คนเรียกผี 3 มัจจุราชบงการ

  เรื่องราวความหวาดกลัวจากคดีฆาตกรรมสุดสยองขวัญ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการบูชาปีศาจมัจจุราช ทำให้ วอร์เรน และ เอ๊ด คนเรียกผีตัวจริงยังต้องตะลึงกับสิ่งที่เจอ พวกเขาต้องช่วยกันสืบสวนคดีของอาร์นี่ จอห์นสัน คนรักของเด็บบี้ แกล็ทเซลพี่สาวเดวิด ได้ขอให้ผีเข้าสิงตนแทนและปล่อยเด็กไป ส่วนเอ็ดเกิดหัวใจวายในระหว่างถูกผีเล่นงาน ทำให้ต้องย้ายไปที่แผนกโรคหัวใจ หลังจากนั้นอาร์นี่ จอห์นสัน ก็เริ่มเห็นภาพหลอนและปีศาจที่ทำให้ต้องลงมือฆ่าคนจนทำให้ถูกจับเข้าคุกและรอรับโทษประหาร เอ็ด และ ลอเรน วอเร็น จึงขอให้ทนายของเขาช่วยลดโทษให้เขาด้วยการพิสูจน์ว่าปีศาจมีจริง ดูซีรี่ย์NETFLIX

 



The Conjuring 3: The Devil Made Me Do It (2021) คนเรียกผี ภาค 3 มัจจุราชบงการ เป็นหนังสยองขวัญเหนือธรรมชาติของอเมริกาที่กำกับโดย Michael Chaves บทภาพยนตร์โดย David Leslie Johnson-McGoldrick จากเรื่องราวของ Johnson-McGoldrick และ James Wan ซึ่งเป็นการกลับมาร่วมผลิตของ Wan และ Peter Safran โดยเป็นภาคต่อของ The Conjuring 2 (2016) และเป็นภาคที่แปดในแฟรนช์ไชส์ The Conjuring นำแสดงโดย Patrick Wilson, Vera Farmiga, Ruairi O’Connor, Sarah Catherine Hook และ Julian Hilliard




ภาคนี้หนังค่อนข้างยาวเกือบสองชั่วโมงและเป็นการอ้างอิงจากเรื่องจริงที่มีพื้นฐานมาจากการพิจารณาคดีของ Arne Cheyenne Johnson คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นใน ปี 1981 ในบรู๊ค ฟิล คอนเนตทิคัต ซึ่งเปิดเรื่องด้วยการเกริ่นนำเรื่องราวเล็กน้อยพร้อมกับฉายถึงเอ็ด และ ลอเรน วอเร็นที่ถูกเรียกไปไล่ผีออกจากร่างของ เดวิด แกล็ทเซล ในวันที่ 18 กรกฎาคม 1981 ซึ่งเปิดเรื่องมาไม่ทันไรก็เน้นตุ้งแช่เลยและบางฉากที่พอเดาเรื่องได้บ้าง แต่ผีโหดดี หลังจากนั้นจะเน้นไปที่เรื่องราวของครอบครัวในช่วงเปิดเรื่องเป็นหลัก โดยเฉพาะอาร์นี่ จอห์นสันที่ค่อย ๆ เจอกับเหตุการณ์แปลก ๆ และมีอาการเปลี่ยนไป ซึ่งชวนลุ้นดีว่าจะเจออะไรโดยดำเนินเรื่องตัดสลับกับเอ็ด และ ลอเรน วอเร็น ซึ่งภาคนี้จะเน้นฉายถึงเอ็ด และ ลอเรน วอเร็นมากขึ้นและเป็นภาคที่ลูกสาวโตขึ้นแล้ว รวมทั้งมีการปูเรื่องราวที่มาที่ไปของเอ็ด และ ลอเรน วอเร็นบ้าง จากนั้นก็จะเน้นไปที่เอ็ด และ ลอเรน วอเร็นที่ต้องหาทางช่วยอาร์นี่ จอห์นสันจากโทษประหารด้วยการหาทางพิสูจน์ว่าปีศาจมีจริงด้วยการหาที่มาที่ไปของปีศาจตัวนี้ที่ไปเกี่ยวพันกับเหยื่อรายอื่นที่หายตัวไปและแก้ไขโดยอาศัยสิ่งที่ได้เห็นจากการสัมผัสได้ในช่วงแรกที่ฉายเป็นปริศนา ซึ่งชวนติดตามดี โดยในระหว่างการพิสูจน์ก็จะมีฉายย้อนไปถึงเหตุการณ์ช่วง 5 เดือนก่อนหน้าเล็กน้อย จนค่อย ๆ เปิดเผยเรื่องราวทีละน้อย ซึ่งช่วงที่เล่าเรื่องราวค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย บางช่วงเน้นบรรยากาศมืด ๆ มีตุ้งแช่เหมือนเดิม แต่ความน่ากลัวกลับลดลงจากภาคก่อน ๆ ซึ่งตอนจบจบง่ายไปหน่อย แต่ก็ถือว่าจบได้ดีและมีสรุปเรื่องราวในตอนท้ายพร้อมฉายถึงบันทึกเหตุการณ์จริง

Comments

Popular posts from this blog

HOUSE OF INEQUITY (2023) หนังสยองขวัญ

รีวิว Waking Karma (2023)

ดูหนังสยองขวัญ Carnifex (2022)