“Boston Strangler” ลำเลียงสืบสวนเชิงข่าวกับหนึ่งในคดีดังสุดที่อเมริกา

 เรื่องราวของนักข่าวสาว ลอเร็ตต้า แมคลาฟลิน จากหนังสือพิมพ์ เรดคอร์ด ออฟ อเมริกัน ที่กลายเป็นนักข่าวหญิงที่คลุกวงในและเปิดประเด็นในการตีแผ่กรณีฆาตกรรมเหยื่อสาวหลายรายในพื้นที่นครบอสตัน ในช่วงต้นยุคปี 1960s ที่กลายเป็นหนึ่งในคดีอาชญากรรมที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์จากอเมริกา เธอร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน จีน โคล ในการไล่เสาะหาเบาะแสจากทุกทิศทาง เพื่อนำทางเข้าใกล้ตัวฆาตกรต่อเนื่อง จนได้รับการขนานว่าเป็นนักข่าวหญิงที่ทำงานได้เร็วกว่าตำรวจเสียอีก  อัพเดทหนังใหม่




นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทของ “แมตต์ รัสกิน” โปรดิวเซอร์หนุ่มที่อยู่เบื้องงานสร้างหนังระทึกขวัญเกรดรอง ๆ มาหลายเรื่อง และครั้งถือว่าเขากลับมากำกับหนังในรอบ 5 ปี หลังจากที่ผลงานการกำกับหนังส่วนใหญ่ของเขาจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่นักก็ตาม แต่นับว่าโชคดีที่เคสที่หยิบนำมาเป็นประเด็นหลักของหนังนั้น ค่อนข้างมีความทรงพลังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้แทบจะไม่ต้องทำอะไรมาก ก็พลอยทำให้หนังดูเข้มข้นได้เรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง



เอาจริง ๆ หนังอาจจะไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกันหนังสืบสวนเชิงข่าวเรื่องเยี่ยม อย่าง Spotlight และ The Post หรือหนังเสาะหาฆาตกรดังใน Zodiac ได้เลย เพราะชั้นเชิงของหนังค่อนข้างต่างกันพอสมควร Boston Strangler เหมือนเป็นแค่หนังที่หยิบเอาเรื่องจริงมาเซ็ตใหม่เล่าเป็นฉาก ๆ ตามไทม์ไลน์ของคดีที่แทบจะไม่ออกนอกลู่นอกทาง หรือออกจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเองเลยสักนิด




แม้ว่าโซนปลอดภัยของหนังเรื่องนี้ที่ดำเนินไปเกือบ 2 ชั่วโมงของเรื่อง จะไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร เพราะมันก็เป็นจุดที่ทำให้คนดูสามารถเกาะติดไล่ตามเบาะแสได้สนุกไปพร้อม ๆ กับตัวละคร เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้มอบความแปลกใหม่และมีกิมมิกลูกเล่นอะไรที่ให้น่าตื่นเต้นนัก การเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ ตามลำดับของคดี ถึงจะไม่น่าเบื่ออะไร แต่กลับยังไม่ได้ทำให้น่าสนใจที่สุดในขั้นนั้น


และอีกหนึ่งโชคดีที่ Boston Strangler เรื่องนี้มีก็คือทีมนักแสดงระดับคุณภาพ ที่ถือว่านักแสดงทุกคนมารับหน้าที่แบกหนังเรื่องนี้เอาไว้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ “เคียร่า ไนต์ลี” ที่บทบาทนี้ของเธอ อาจจะไม่มีอะไรแปลกใหม่จากบทที่เคยถ่ายทอดมาแล้วจากหนังเรื่องก่อนหน้านี้อะไร แต่การแสดงระดับมืออาชีพของเธอก็เป็นจุดที่ช่วยประคับประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ค่อนข้างน่าพอใจ



ยิ่งมีนักแสดงสมทบชั้นเลิศ อย่าง “แคร์รี่ คูน”, “คริส คูเปอร์”, “เดวิด แดสท์มัลแชน” หรือ “อาเลสซานโดร นิโวลา” ยิ่งเป็นส่วนเสริมทำให้ Boston Strangler ยังคงคอนเซ็ปต์หนังในแบบที่ควรจะเป็นเอาไว้ได้ดี และต้องขอชื่นชมในการสร้างโทนบรรยากาศกับแวดล้อมในหนังเรื่องนี้ แม้ว่าจะยังไม่ใช่องค์ประกอบที่ละเอียดชัด แต่หนังก็ทำออกมาได้ดี เป็นโทนแบบที่หนังสืบสวนอาชญากรรมพึงมี และยังเวิร์กกับการหยิบมาใช้ได้ดี


ดังนั้นโดยสรุปแล้ว Boston Strangler อาจจะยังไม่ได้เป็นหนังอาชญากรรมสืบสวนเชิงข่าวที่เต็มไปด้วยกึ๋นอะไร หนังค่อนข้างเล่าแบบผิวเผินและธรรมดา แบบไม่ได้มีชั้นเชิงมากนั้น แต่การเล่าแบบไล่เรียงไทม์ไลน์คดีทั่วไปนั้นก็ไม่ได้ทำให้ตัวหนังดูแย่ กลับเป็นหนังที่ดูสนุกและดูได้ง่ายดีด้วยซ้ำ แค่ท้ายที่สุดแล้วมันอาจจะยังไม่มีมุมไหนที่น่าจดจำสักเท่าไหร่ เป็นหนังที่ดูผ่านแล้วก็ผ่านเลยไป รวมทั้งความพยายามที่จะเชิดชูตัวละครหลักอย่าง ลอเร็ตต้า แมคลาฟลิน ก็ยังตอบโจทย์ออกมาได้ไม่โดดเด่นเท่าที่ควรจะเป็นนัก





Comments

Popular posts from this blog

HOUSE OF INEQUITY (2023) หนังสยองขวัญ

รีวิว Waking Karma (2023)

ดูหนังสยองขวัญ Carnifex (2022)